ในการยื่นเรื่องต่อ SEC เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Rhodium วางแผนที่จะเสนอขาย 7.69 ล้านหุ้นในราคา $12 ต่อในราคาหุ้นละ $14 ในการขายแบบ Initial Public Offering (การขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป) หรือ IPO แบบสั้นๆ การซื้อขายจะใช้ชื่อหุ้นว่า “RHDM” และจะถูกลิสบน Nasdaq โดยจะแบ่งเป็นคลาส A จำนวน 56.8 ล้านหุ้น และคลาส B จำนวน 67.5 ล้านหุ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีมูลค่ารวมอยู่ที่ $1.7B บนตลาดหุ้น
Rhodium เป็นบริษัทเทคโนโลยีสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์และเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลวเพื่อขุด Bitcoin ด้วยตัวเอง เป้าหมายของพวกเขาคือการเป็นผู้ผลิต Bitcoin ที่ยั่งยืนและคุ้มค่าที่สุดในอุตสาหกรรม
บริษัทเข้าร่วมรายชื่อบริษัทในสหรัฐฯ ที่ขุด Bitcoin ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมารวมถึง Marathon, Bitdeer Technologies, Riot Blockchain และ Bit Digital ซึ่งได้จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์เช่น NASDAQ
ตามที่แจ้งไปยัง SEC ปัจจุบัน Rhodium มีกำลังการขุด 125 เมกะวัตต์ (MW) ที่เหมืองแห่งแรกในเท็กซัส โดยมีเครื่องขุด Bitcoin กำลังทำงานอยู่ 33,600 เครื่องและมี hash rate รวมทั้งหมดประมาณ 2.7 EH/s
หลังจากการเสนอขายหุ้น IPO และการเพิ่มทุน $100M บริษัทจะดำเนินการสร้างเหมืองแห่งที่สองในเท็กซัส ซึ่งพวกเขา ” คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 225 เมกะวัตต์ ” ภายในสิ้นปี 2022 ซึ่งจะทำให้บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปัจจุบัน
ต้นทุนเฉลี่ยต่อ BTC ในปี 2021 อยู่ที่ประมาณ $47,000 ถ้าคิดเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าแล้วออกมาจะเป็นตัวเลขดังนี้
การขุด Bitcoin ได้ในราคาที่ต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม สำหรับช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 ถึง 30 กันยายน 2021 ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของเราในการผลิต 1 Bitcoin นั้นอยู่ที่ประมาณ $2,507
เท็กซัสยังคงสร้างชื่อเสียงในฐานะรัฐที่เป็นมิตรกับการขุด Bitcoin ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 วุฒิสมาชิก Ted Cruz ให้ความเห็นว่า Texas ควรใช้การขุด Bitcoin เพื่อดักจับก๊าซธรรมชาติที่สูญเปล่า ในขณะที่ Electric Reliability Council of Texas (ERCOT) คาดการณ์ว่าความต้องการพลังงานในการขุด Bitcoin ของรัฐ จะเพิ่มขึ้น 5 เท่าภายในปี 2023
Rhodium ใช้ประโยชน์จาก “ ตลาดพลังงานอิสระและทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนที่มีต้นทุนต่ำจำนวนมาก ” ของรัฐเท็กซัส และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแบบ Pro-Bitcoin