มีรายงานว่าทางการจีนจะมอบ e-CNY 30 ล้านหยวน ($4.5M) ให้กับผู้อยู่อาศัยในเซินเจิ้นในวันจันทร์นี้ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ ความพยายามครั้งล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าจีนยังคงผลักดัน CBDC และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับสังคมในวงกว้าง
ในฐานะประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในด้านจุดยืนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อ crypto จีนมีมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลาง เพียงหนึ่งเดือนหลังจากที่เมืองเซินเจิ้นที่เน้นด้านเทคโนโลยีได้ประกาศแผนการแจกจ่ายหยวนดิจิทัลมูลค่า $2.3M ให้กับผู้อยู่อาศัย เมืองที่เป็นที่ตั้งของ Tencent ก็พร้อมที่จะ ทำการ airdrop เพิ่มอีก 30 ล้านหยวนดิจิทัล หรือประมาณ $4.5M
ข่าวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเมือง XiongAn New Area ของปักกิ่งได้เปิดตัวแคมเปญที่คล้ายกันเพื่อแจก 50 ล้านหยวนดิจิทัล
สำนักงานการค้าเทศบาลเซินเจิ้นจะร่วมมือกับธนาคารรายใหญ่หลายแห่งเพื่อแจกจ่ายสกุลเงินดิจิทัลในรูปแบบของ “ซองอั่งเปาสีแดง” ผ่านการจับฉลาก ให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างเป็นทางการของรัฐบาล ผู้เข้าร่วมมีโอกาสลุ้นรับรางวัล 88, 100 หรือ 128 หยวนดิจิทัล และสามารถใช้จ่ายเงินได้ที่ร้านค้าออนไลน์หรือออฟไลน์กว่า 15,000 แห่งที่มีสิทธิ์ดำเนินการธุรกรรม e-CNY ผู้ชนะจะถูกเลือกในวันที่ 30 พฤษภาคมและ 9 มิถุนายน
รัฐบาลมองว่าการออกเงินอุดหนุน e-CNY เป็นตัวกระตุ้นการบริโภคและส่งเสริมสกุลเงินดิจิทัลต่อไป การเปิดเผยดังกล่าวระบุว่าธุรกิจขนาดเล็กได้รับประโยชน์จากแคมเปญ airdrop ก่อนหน้านี้ที่กระตุ้นการบริโภค เนื่องจากจำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มสูงขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น
รัฐบาลได้นำร่องเพื่อจูงใจให้ผู้ใช้ชำระเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางของประเทศได้เพิ่มเมืองใหม่ให้กับเมืองหลัก 10 แห่งที่มีอยู่ เพื่อทดสอบการใช้ e-CNY
ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยธนาคารกลาง ปริมาณธุรกรรมทั้งหมดของ e-CNY อยู่ที่ 87.6 พันล้านหยวน ณ สิ้นปี 2021
นอกจากการผลักดันให้ใช้ในประเทศแล้ว รัฐบาลยังตั้งเป้าที่จะวางตำแหน่ง e-CNY ให้เป็นตัวเลือกการชำระเงินสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ ปักกิ่งเตรียมพร้อมอย่างดีที่จะโปรแก่ชาวต่างชาติในช่วงโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพียงเล็กน้อยเนื่องจากนโยบายโควิดที่เข้มงวดซึ่งกีดกันผู้มาเยือนจำนวนมากไม่ให้เข้าประเทศ
ข้อมูลจาก LINK
ภาพจาก LINK