Altcoin (Alternative Coin) คือสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ใช่ Bitcoin และมีหลายแบบและมีวัตถุประสงค์หลายประการ, เช่น Ethereum ที่เน้นการใช้งานในสัญญาอัจฉริยะและการพัฒนา dApps, Ripple (XRP) ที่เน้นการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างธนาคาร, หรือ Solana (SOL) ที่มุ่งเน้นความเร็วในการทำธุรกรรมและความเสถียร.
การลงทุนใน Altcoin มีความหลากหลายและสามารถให้ผลตอบแทนที่มากมาย, แต่ต้องระมัดระวังเนื่องจากมีความเสี่ยงที่สูง. ราคาของ Altcoin มีการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว, และมีโอกาสที่จะเกิดการขายขาดทุนและความผันผวนที่สูง. นอกจากนี้, ตลาด Altcoin มีความนิยมและความสนใจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา.
ต่อไปนี้เป็นภาพรวมและประโยชน์ของ Altcoin โดย 10 อันดับแรกวัดตามมูลค่าราคาตลาด ไม่รวม Stablecoin เนื่องจากได้รับการออกแบบมาเพื่อรักษาราคาให้คงที่
1. Ethereum (ETH)
Market cap: $223.3 billion
Ethereum (ETH) มีประโยชน์หลายประการที่ทำให้มันเป็นอัลต์คอยน์ที่สำคัญในโลกของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน. นี่คือบางประโยชน์หลักของ Ethereum:
- การทำสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts): Ethereum มีความสามารถในการสร้างและดำเนินการสัญญาอัจฉริยะ, ที่เป็นโครงสร้างโปรแกรมที่สามารถทำงานโดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้. สัญญาอัจฉริยะนี้สามารถใช้ในหลายแวดวง เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน, บริหารทรัพยากร, และการจัดการความเชื่อถือ.
- การเปิดโอกาสให้นักพัฒนา (Decentralized Applications – dApps): Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่อนุญาตให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันที่มีการกระจาย (dApps) โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน. นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องพึ่งพาบริการกลาง, ซึ่งทำให้ลดความเชื่อมโยงและเสี่ยงต่อการโกง.
- การทำเหมือง (Mining) และความมั่งคั่ง: Ethereum ใช้โมเดลการทำเหมือง Proof of Stake (PoS) หรือกำลังพลังงานแทนการทำเหมือง Proof of Work (PoW) ที่ใช้ในบิตคอยน์. นี่ทำให้ Ethereum เป็นอัลต์คอยน์ที่มีการใช้พลังงานน้อยกว่าและเชื่อถือได้มากขึ้น.
- คอมิวนิตี้และมูลค่าเก็บรักษา (Composability and Store of Value): Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความสามารถในการทำงานร่วมกับโปรโตคอลและโครงสร้างอื่น ๆ ซึ่งสร้างความยืดหยุ่นในการสร้างแอปพลิเคชันที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ. นอกจากนี้, ETH ยังถือเป็นมูลค่าเก็บรักษาได้เช่นเดียวกับบิตคอยน์ (Bitcoin).
- เครือข่ายที่มีความปลอดภัยและทนทาน: Ethereum มีระบบการทำงานที่มีความปลอดภัยและทนทาน, ที่ทำให้เป็นที่น่าเชื่อถือในการให้บริการตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสกุลเงินดิจิทัล.
2. Binance Coin (BNB)
Market cap: $37.4 billion
Binance Coin (BNB) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นโดย Binance, ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก. นี้คือบางข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Binance Coin:
- วัตถุประสงค์หลัก: BNB ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการในแพลตฟอร์มการซื้อขายของ Binance. ในตอนแรก, BNB ถูกใช้เพื่อชำระค่าธรรมเนียมการซื้อขายและค่าบริการอื่น ๆ ในแพลตฟอร์ม Binance.
- การใช้ในแพลตฟอร์ม Binance: BNB มีการใช้งานหลายประการในแพลตฟอร์ม Binance. นักลงทุนสามารถใช้ BNB เพื่อชำระค่าธรรมเนียมการซื้อขายใน Binance Exchange และใน Binance Smart Chain (BSC) เพื่อทำธุรกรรมและเข้าร่วมในโครงการที่สร้างบน BSC.
- ICO (Initial Coin Offering): BNB เริ่มต้นในรูปแบบของ ICO เมื่อ Binance จัดทำ ICO เพื่อระดมทุนในการพัฒนาแพลตฟอร์ม. ในช่วงแรก, BNB ถูกจัดจำหน่ายในราคาที่ลดลงสำหรับนักลงทุนที่เข้าร่วม ICO.
- การเผยแพร่แบบ Deflationary: Binance ได้นำเสนอโครงการการเผยแพร่ที่ลดลงของ BNB ในแต่ละปี, ซึ่งหมายถึงการทำให้ปริมาณ BNB ลดลงตามระยะเวลา. นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่ Binance ใช้เพื่อส่งเสริมการถือ BNB ในระยะยาว.
- Binance Smart Chain (BSC): BNB เป็นสกุลเงินที่มีความสำคัญใน Binance Smart Chain, ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่สร้างขึ้นโดย Binance เพื่อให้รองรับการพัฒนา dApps และการทำสัญญาอัจฉริยะ.
- นอกจากนี้: BNB ยังได้รับการนำไปใช้ในตลาดที่รับรองสกุลเงินดิจิทัล, การทำธุรกรรมทางการเงิน, และการลงทุนในโครงการที่มีการสนับสนุน BNB.
สำหรับการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างขึ้นกับการพัฒนาของ Binance, สามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือเว็บไซต์ทางการของ Binance.
3. XRP (XRP)
Market cap: $36.2 billion
XRP (XRP) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมและถูกพัฒนาโดยบริษัท Ripple Labs Inc. ซึ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาในระบบการโอนเงินและการชำระเงินระหว่างธนาคาร. นี่คือบางข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ XRP:
- Digital Payment Protocol: XRP ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการในระบบการโอนเงินและการชำระเงินต่าง ๆ โดยเฉพาะในการโอนเงินข้ามชาติ. นักลงทุนและธนาคารสามารถใช้ XRP เพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรม.
- Consensus Ledger: XRP ใช้เทคโนโลยี Consensus Ledger ที่ไม่ใช่ Proof of Work หรือ Proof of Stake ซึ่งทำให้มีการยืนยันที่รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ. นี้ช่วยให้การทำธุรกรรม XRP เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความเสถียร.
- ไม่ต้องการการทำเหมือง: ทำให้ XRP แตกต่างจากบิตคอยน์และบางสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ, ไม่มีกระบวนการทำเหมือง (mining) ที่ต้องใช้พลังงาน. ครั้งแรกทั้งโปรโตคอลถูกสร้างขึ้นทั้งหมดโดย Ripple Labs.
- การใช้ในโลกธุรกิจ: Ripple Labs ได้รับการยอมรับจากธนาคารและองค์กรทางการเงินในการใช้เทคโนโลยี RippleNet, ซึ่งรวมถึงการใช้ XRP เพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรมข้ามชาติ.
- การจัดการโดยบริษัท: นอกจากการเป็นสกุลเงิน, XRP ยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของ Ripple Labs. บริษัทครอบครองจำนวนมากของ XRP และมีความมีอิทธิพลในการพัฒนาและนำทางในโครงการ.
- เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ: XRP มีความเร็วในการทำธุรกรรมและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ, ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ.
สำหรับข้อมูลที่มีระยะเวลาในการพัฒนาและการใช้งานของ XRP, ควรตรวจสอบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันจากแหล่งข้อมูลทางการของ Ripple Labs หรือแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่สุด.
4. Cardano (ADA)
Market cap: $10.6 billion
Cardano (ADA) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีระบบบล็อกเชนและถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันและทำสัญญาอัจฉริยะ (smart contracts). นี่คือบางข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Cardano:
- โครงการการพัฒนา: Cardano เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ที่มีความเร็วสูงและมีประสิทธิภาพในการสร้างระบบบล็อกเชนที่เป็นมาตรฐานสูง. มี Charles Hoskinson, ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum, เป็นหนึ่งในผู้นำของโครงการนี้.
- โครงสร้างและอัลกอริทึม: Cardano ถูกสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาอย่างระมัดระวัง, โดยใช้แนวคิดหลักที่แบ่งเป็นส่วนย่อยสามขั้นตอนคือ Byron, Shelley, Goguen, Basho, และ Voltaire. อัลกอริทึมของ Cardano มีการจัดการที่เป็นระบบและใช้ Ouroboros เป็นโปรโตคอลการเชื่อมั่น.
- สมาร์ทคอนแทร็กต์: Cardano มีแพลตฟอร์มสมาร์ทคอนแทร็กต์ที่ทำงานบนโครงสร้างโครงการ Goguen. นี้ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันและทำสัญญาอัจฉริยะบน Cardano.
- Staking และ Delegated Proof-of-Stake (DPoS): Cardano ใช้ระบบการทำเหมือง (staking) โดยใช้ Ouroboros PoS เพื่อให้ผู้ถือ ADA สามารถทำเหมืองบล็อกและรับรางวัล. มีการใช้ระบบ DPoS เพื่อเลือกผู้ถือ ADA ที่จะเป็นผู้กำหนดค่าในเครือข่าย.
- Governance (Voltaire): โครงการ Cardano มีการปรับปรุงในด้านการจัดการระบบ (governance) ผ่านโครงการ Voltaire. นี่คือขั้นตอนสุดท้ายของโครงสร้าง Cardano ที่ทำให้ผู้ถือ ADA สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาและการปรับปรุงในระบบ.
- การใช้งานทางธุรกิจ: Cardano มีเป้าหมายที่จะให้บริการในสถานการณ์ธุรกิจและการให้บริการการเงินแบบพร้อมเพย์, โดยเน้นความปลอดภัยและความเร็วในการทำธุรกรรม.
การพัฒนาของ Cardano ยังต้องติดตามเพื่อดูข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับการปรับปรุง, การนำทาง, และการนำไปใช้ในโลกแห่งบล็อกเชน.
5. Dogecoin (DOGE)
Market cap: $10.6 billion
Dogecoin (DOGE) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นโดย Billy Markus และ Jackson Palmer เมื่อปี 2013 โดยมีลักษณะที่น่ารักมีสุนัข Shiba Inu จากรูปการ์ตูน “Doge” ในขณะที่มีลักษณะเป็นสกุลเงินเพื่อการให้กับคนที่ไม่สนใจเทคโนโลยีสกุลเงินดิจิทัลในตอนแรก นี่คือบางข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Dogecoin:
- สาธารณะและความน่ารัก: Dogecoin เน้นความสนุกและความน่ารักในการออกแบบและการใช้งานของมัน. มีลักษณะสุนัข Shiba Inu จากรูปการ์ตูน “Doge” เป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ที่ทำให้ Dogecoin มีความน่ารัก.
- โครงสร้างการทำเหมือง: Dogecoin ใช้ Proof of Work (PoW) ในการทำเหมือง โครงสร้างการทำเหมืองของ Dogecoin เหมือนกับ Litecoin, ซึ่งก็เป็นสกุลเงินที่มีพื้นฐานจาก Bitcoin.
- การให้ทานในสังคม: Dogecoin ทำงานในหลายๆ แนวทางในการให้ทานและการกุศล. นักใช้ Dogecoin บ่งบอกกันเองเป็น “Shibes” และมีป traditแนวทางในการให้ทานกันเองตามความสามารถของแต่ละคน.
- การใช้งานในชุมชน: Dogecoin มีชุมชนที่กว้างขวางและที่รับการตอบรับจากชุมชนในสังคมการเงินดิจิทัล. มีการใช้ Dogecoin ในการทำธุรกรรม, การสนับสนุนทางการกุศล, และการให้ทาน.
- ปริมาณการจัดจำหน่าย: ตั้งแต่การเปิดตัว, Dogecoin มีปริมาณการจัดจำหน่ายที่มากถึง 100,000,000,000 DOGE. นี้หมายความว่า Dogecoin มีการจำหน่ายที่สูง, ซึ่งมีผลทำให้มูลค่าต่อหน่วยลดลง.
- การเกิดเหตุการณ์บางอย่าง: Dogecoin บางครั้งก็เข้ามาในการเกิดเหตุการณ์หรือประชาธิปไตย, เช่นการเอา Dogecoin ไปใช้ในการช่วยเหลือการชุมชนหรือการสนับสนุนทางการกุศล.
อย่างไรก็ตาม, ควรทราบว่า Dogecoin มีลักษณะที่น่าสนใจและมีรูปแบบในการใช้งานที่แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลบางประการ. การลงทุนหรือการใช้ Dogecoin ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและทราบถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง.
6. Solana (SOL)
Market cap: $9.4 billion
Solana (SOL) เป็นสกุลเงินดิจิทัลและเครือข่ายบล็อกเชนที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่รวดเร็วและความเสถียรสูง. นี่คือบางข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Solana:
- โครงสร้างบล็อกเชนแบบหนึ่งเครือข่าย: Solana มีโครงสร้างบล็อกเชนที่ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลได้เร็วและมีประสิทธิภาพ. มีโปรโตคอลที่ชื่อ Tower BFT และโปรโตคอลการคอมมิตที่มีการพัฒนามาเพื่อรองรับการประมวลผลที่เร็ว และบล็อกต่อไปได้ทันที.
- การทำธุรกรรมที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ: Solana มีความสามารถในการดำเนินการทรัพยากรมีประสิทธิภาพสูง, ทำให้มีการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ.
- การทำเหมืองแบบ Proof of History (PoH): Solana ใช้ Proof of History เพื่อสร้างลำดับเวลาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในแต่ละบล็อก. นี้ช่วยในการลดการจัดการทรัพยากรและเพิ่มความปลอดภัย.
- โครงสร้าง Token และ Smart Contracts: Solana มีการสนับสนุนสำหรับการสร้าง Token และ Smart Contracts, ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ทำงานบนเครือข่าย Solana.
- การทำงานร่วมกับโครงการ DeFi (Decentralized Finance): Solana ได้เริ่มต้นการทำงานร่วมกับโครงการ DeFi และโปรโตคอลที่เกี่ยวข้อง, ซึ่งทำให้มีความสามารถในการทำธุรกรรมและการให้บริการทางการเงิน.
- Solana Ecosystem: มี Ecosystem ที่กำลังเจรจาการพัฒนาและมีโปรเจ็คต์ต่าง ๆ ที่กำลังใช้งานบนเครือข่าย Solana. นักพัฒนาและโครงการที่สนใจสามารถใช้ Solana เพื่อสร้างและให้บริการแอปพลิเคชันที่หลากหลาย.
การทำงานของ Solana มีลักษณะที่น่าสนใจและเป็นที่สนใจในวงการบล็อกเชน
7. Tron (TRX)
Market cap: $6.9 billion
Tron (TRX) เป็นสกุลเงินดิจิทัลและเครือข่ายบล็อกเชนที่สร้างขึ้นโดย Justin Sun และทีมพัฒนา, มีเป้าหมายในการสร้างพื้นที่ในโลกดิจิทัลที่ให้โปรแกรมและเนื้อหามีความโปร่งใส. นี่คือบางข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Tron:
- Delegated Proof-of-Stake (DPoS): Tron ใช้โปรโตคอล Delegated Proof-of-Stake (DPoS) ซึ่งอนุญาตให้ผู้ถือ TRX เลือกผู้ดำเนินการบล็อก (block producer) ผ่านการโหวต. นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมและการตรวจสอบ.
- Ethereum Compatibility: Tron มีความเข้ากันได้กับโปรโตคอลของ Ethereum, ทำให้โปรแกรมและสัญญาอัจฉริยะที่สร้างขึ้นบน Ethereum สามารถโยกย้ายมาทำงานบนเครือข่าย Tron ได้.
- Smart Contracts: Tron มีภาษาโปรแกรมจาวาสคริปต์ (JavaScipt) ในการเขียนสัญญาอัจฉริยะ, ทำให้นักพัฒนาสามารถใช้ความคุ้นเคยกับภาษาโปรแกรมนี้ได้.
- TRON Virtual Machine (TVM): TVM เป็นเครื่องจำลองสำหรับการทำงานของสัญญาอัจฉริยะบนเครือข่าย Tron. มีเป้าหมายที่จะทำให้การทำงานของโปรแกรมและสัญญาอัจฉริยะมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ.
- BitTorrent Integration: Tron ได้ซื้อกิจการ BitTorrent, ทำให้มีการบูรณาการและการรวมรวมบริการการแจกไฟล์แบบ peer-to-peer ในโครงสร้างของ Tron.
- การทำงานในการบริการเนื้อหาและบริการดิจิทัล: Tron มีความเน้นในการให้บริการเนื้อหาและบริการดิจิทัล, ทำให้มีโปรโตคอล BitTorrent Speed ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดไฟล์แบบ peer-to-peer.
- TRX Token: TRX เป็นสกุลเงินหลักบนเครือข่าย Tron และมีการใช้งานในการทำธุรกรรม, การโหวต, และการชำระเงินในแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย.
การใช้งานและการพัฒนาของ Tron มีลักษณะที่มีผลกระทบในด้านการให้บริการเนื้อหาและบริการดิจิทัล
8. Litecoin (LTC)
Market cap: $6.6 billion
Litecoin (LTC) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นโดย Charlie Lee ในปี 2011, เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลแรกที่สร้างมาจากการคลังพลังงานของ Bitcoin. นี่คือบางข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Litecoin:
- Scrypt Algorithm: Litecoin ใช้วิธีการทำเหมืองแบบ Scrypt, ซึ่งแตกต่างจากวิธีการทำเหมืองของ Bitcoin (SHA-256). Scrypt ถูกออกแบบมาเพื่อลดความจนท.ของการทำเหมือง.
- การทำธุรกรรมรวดเร็ว: Litecoin มีบล็อกเกนขนาดเล็กกว่า Bitcoin และมีเวลาบล็อกที่เร็วขึ้น, ทำให้มีการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว.
- จำนวนสูง: Litecoin มีจำนวนสูงถึง 84 ล้านเหรียญ, ซึ่งเป็นมูลค่าสูงกว่า Bitcoin.
- การอัปเกรด Segregated Witness (SegWit): Litecoin ได้ทำการอัปเกรด SegWit และเป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกที่ทำเครือข่ายทดสอบการใช้งาน Lightning Network, ทำให้มีการทำธุรกรรมน้อยลงและค่าธรรมเนียมต่ำ.
- การใช้งานในการชำระเงิน: Litecoin มีการใช้งานในการชำระเงินและการทำธุรกรรมที่สำคัญ. นอกจากนี้, Litecoin ยังมีการนำทางทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Atomic Swaps และ Lightning Network.
- Charlie Lee’s Involvement: Charlie Lee, ผู้สร้าง Litecoin, เป็นบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ในวงการสกุลเงินดิจิทัล. เขาได้ลาออกจากตำแหน่งที่ฝ่ายพัฒนา Litecoin เพื่อลดความขัดแย้งของประสบการณ์และการพูดตลอดเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนลงทุน.
Litecoin ยังคงเป็นสกุลเงินที่สำคัญในตลาดและมีความสามารถในการให้บริการในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว
9. Polygon (MATIC)
Market cap: $6.4 billion
Polygon (MATIC) เป็นสกุลเงินดิจิทัลและโปรโตคอลการทำสัญญาอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการใช้งานบนเครือข่าย Ethereum. นี่คือบางข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Polygon:
- Layer 2 Scaling Solution: Polygon เป็น Layer 2 scaling solution ที่ทำงานบนเครือข่าย Ethereum. มีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำธุรกรรมและลดค่าธรรมเนียม.
- เสมือนแบบ Sidechain: Polygon มีโครงสร้างที่คล้ายกับ sidechain แต่มีการเชื่อมต่อกับ Ethereum ผ่านการใช้ bridge. นี้ช่วยให้มีความยืดหยุ่นและสามารถนำเสนอความปลอดภัยที่มีระดับสูง.
- มัลติเชนท์: Polygon มีความสามารถในการรองรับมัลติเชนท์, ซึ่งทำให้สามารถสร้างและทำธุรกรรมได้หลาย blockchain บนพื้นฐานของโปรโตคอล Polygon.
- การทำธุรกรรมที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ: Polygon ช่วยลดความซับซ้อนในการทำธุรกรรมและลดค่าธรรมเนียมในการใช้งานบนเครือข่าย Ethereum.
- การสนับสนุนการพัฒนา DeFi: Polygon ได้รับความสนใจจากโครงการ DeFi และแอปพลิเคชันอื่น ๆ บน Ethereum ที่ต้องการการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ.
- Polygon Ecosystem: มี Ecosystem ที่กำลังเจรจาการพัฒนาและมีโปรเจ็คต์ต่าง ๆ ที่ใช้งานบนเครือข่าย. Polygon มีการสนับสนุนในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่หลากหลาย.
- MATIC Token: MATIC เป็นสกุลเงินหลักบนเครือข่าย Polygon และใช้ในการชำระค่าธรรมเนียม, การลงทุนในโครงการ, และการทำธุรกรรมภายใน Ecosystem.
Polygon มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาการขยายมาตรฐานของ Ethereum และการลดความซับซ้อนในการใช้งานบนบล็อกเชน
10. Polkadot (DOT)
Market cap: $6.2 billion
Polkadot (DOT) เป็นโปรโตคอลบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Dr. Gavin Wood, ซึ่งเป็นนักพัฒนา Ethereum และเป็นส่วนหนึ่งของ Ethereum Foundation. Polkadot มีลักษณะเด่นดังนี้:
- Multi-Chain Network: Polkadot มีโครงสร้างที่เรียกว่า “parachains” ที่เป็นโซนของบล็อกเชนที่สามารถเชื่อมต่อกับ Polkadot. นี้ช่วยให้ Polkadot เป็นโครงสร้าง multi-chain ที่สามารถรองรับหลาย blockchain พร้อมกัน.
- Interoperability: Polkadot มีเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างที่สามารถเชื่อมต่อกับหลาย blockchain และโครงสร้างบล็อกเชนอื่น ๆ ทำให้มีความสามารถในการทำงานร่วมกับโลกแบบ multi-chain.
- Nominated Proof-of-Stake (NPoS): Polkadot ใช้ Nominated Proof-of-Stake ในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย. ผู้ถือ DOT สามารถเสนอตัวเองหรือเสนอผู้อื่นเป็น validators เพื่อรับรองการทำธุรกรรมบนเครือข่าย.
- DOT Token: DOT เป็นสกุลเงินหลักในเครือข่าย Polkadot. มีหน้าที่ในการลงคะแนนในการเลือก validators, การส่งข้อมูลระหว่าง parachains, และการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการพัฒนาของเครือข่าย.
- Governance and Upgrades: Polkadot มีระบบการจัดการและการปรับปรุงที่เป็นแบบที่มีประสิทธิภาพ. ผู้ถือ DOT สามารถเข้าร่วมในกระบวนการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับปรุงของเครือข่าย.
- Cross-Chain Messaging: Polkadot มีสิ่งที่เรียกว่า “XCMP” (Cross-Chain Message Passing) ซึ่งช่วยในการส่งข้อมูลระหว่าง blockchain ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับ Polkadot.
- Ecosystem: Polkadot มี Ecosystem ที่กำลังเจรจาการพัฒนา, มีโปรเจ็คต์ต่าง ๆ ที่ใช้งานบนเครือข่าย Polkadot และ Kusama (ที่เป็นเครือข่ายทดสอบ).
Polkadot มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาของการโตของบล็อกเชนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหลาย blockchain พร้อมกัน
ทั้งนี้การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงที่สูงและควรศึกษาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรระมัดระวังและคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจมีผลต่อการลงทุนของตน การค้นคว้าข้อมูลและการเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อทำให้การลงทุนเป็นไปอย่างระมัดระวังและมีการวางแผนอย่างเหมาะสม