Polygon Network ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่ามุ่งมั่นที่จะทำให้เครือข่ายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้เงินกว่า $20M เพื่อชดเชยส่วนของก๊าซคาร์บอนที่ได้ถูกปล่อยก่อนหน้า จนกระทั่งกลายเป็นบล็อคเชนแบบ carbon negative ในท้ายที่สุด
นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนโซลูชันการปรับขนาด Ethereum เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน รวมถึงการจัดหาทรัพยากรสำหรับพันธมิตรในระบบนิเวศที่ต้องการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ พวกเขาหวังว่าจะอำนวยความสะดวกให้องค์กรพัฒนาเอกชนบริจาคเงินเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ตามประกาศ “Green Manifesto smart contract” นั้น ทุกการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากการสร้าง NFTs หรือ DeFi บน Polygon จะถูกนำมาพิจารณาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและจะถูกชดเชย เพื่อให้ Polygon บล็อคเชนกลายเป็นเจ้าแรกมิตรกับสิ่งสภาพแวดล้อมที่จะถูกเรียกว่า “ climate positive ”
Polygon กำลังร่วมมือกับ KlimaDAO ซึ่งเป็นองค์กรของนักพัฒนาที่ให้บริการเทคโนโลยีการชดเชยคาร์บอนของตัวเชน เช่นเดียวกับ Offsetra ที่วัดความเข้มข้นของคาร์บอนในเครือข่าย ด้วยการวิเคราะห์การปล่อยมลพิษจากฮาร์ดแวร์ node ที่เชื่อมโยงกับการใช้พลังงานจากการโต้ตอบกับ Ethereum Mainnet
Polygon ยังเผยแพร่การวิเคราะห์การปล่อยมลพิษที่พบว่า 99% ของการปล่อย Polygon นั้นเกิดจากกิจกรรมจุดตรวจและการเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมบน Ethereum Mainnet โดย Polygon อ้างถึงการปล่อย CO2e ของเครือข่ายทั้งหมดกว่า 90,645 ตัน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ถึงกุมภาพันธ์ 2022 ภายใต้บริษัทต่างๆ เช่น Microsoft และ Deloitte
เมื่อเร็วๆ นี้ Polygon ได้ระดมทุน $450M ที่นำโดย Sequoia และกองทุนร่วมทุนบล็อกเชนรายใหญ่อื่นๆ เพื่อขยายโซลูชันการปรับขนาด ซึ่งรวมถึง Polygon PoS, Polygon Edge และ Polygon Avail Sandeep Nailwal ผู้ร่วมก่อตั้งของ Polygon กล่าวว่าความคิดริเริ่มด้านความสามารถในการปรับขนาดและความยั่งยืนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์โดยรวมในการส่งเสริม Web3 ไปใช้ในกระแสหลัก
ข้อมูลจาก : LINK
ภาพจาก : LINK